สำหรับผู้ใช้งาน WSL (Windows Subsystem for Linux) ที่พบว่าพื้นที่ในไดรฟ์ C: ใกล้เต็ม และอยากย้ายระบบ Linux ที่ติดตั้งไว้ไปอยู่ในไดรฟ์ D: บทความนี้จะแนะนำขั้นตอนแบบง่ายๆ ปลอดภัย และไม่เสียข้อมูล
ทำไมต้องย้าย WSL ไปที่ D:?
โดยค่าเริ่มต้น เมื่อเราติดตั้งดิสโทรของ WSL เช่น Ubuntu, Debian หรืออื่นๆ ระบบจะเก็บไฟล์ไว้ที่:
C:\Users\<YourUser>\AppData\Local\Packages\
ซึ่งถ้าใช้งานไปนานๆ ขนาดไฟล์อาจใหญ่หลาย GB ทำให้ไดรฟ์ C: เต็มโดยไม่รู้ตัว
วิธีการย้าย WSL ไปยังไดรฟ์ D: เช็กชื่อดิสโทรที่ใช้งานอยู่
เปิด PowerShell แล้วรันคำสั่งนี้:
wsl --list --verbose
คุณจะเห็นรายชื่อของดิสโทรที่ติดตั้ง เช่น:
NAME STATE VERSION * Ubuntu Running 2
ส่งออกดิสโทร (Export) ให้เรา Export ดิสโทรที่ต้องการย้าย (ในที่นี้คือ Ubuntu) ไปไว้ที่ D:
wsl --export Ubuntu D:\wsl-backup.tar
จะได้ไฟล์ .tar
ที่เก็บข้อมูลของ WSL ทั้งหมด
ลบดิสโทรเดิม (Unregister) สร้างโฟลเดอร์สำหรับจัดเก็บดิสโทรในไดรฟ์ D:
mkdir D:\WSL\Ubuntu
แล้วนำเข้าดิสโทรใหม่ด้วยคำสั่ง:
wsl --import Ubuntu D:\WSL\Ubuntu D:\wsl-backup.tar
ตั้งค่า Ubuntu ให้เป็นดิสโทรหลัก (ถ้าต้องการ)
wsl --set-default Ubuntu
จากนี้ไปเมื่อพิมพ์ wsl
ระบบจะเปิด Ubuntu ตัวใหม่จากไดรฟ์ D: ให้อัตโนมัติ
ตรวจสอบผล ลองรันคำสั่ง:
wsl -d Ubuntu
หรือเปิดไฟล์ explorer ที่ \\wsl$\Ubuntu
เพื่อเช็กว่าใช้งานได้ตามปกติหรือไม่
สรุป
การย้าย WSL จากไดรฟ์ C: ไป D: ช่วยประหยัดพื้นที่ได้มาก โดยเฉพาะถ้าคุณใช้งาน Linux tools เป็นประจำ เพียงทำการ Export → Unregister → Import ตามขั้นตอนที่แนะนำ ก็สามารถย้ายได้แบบปลอดภัยและไม่เสียข้อมูลเลยครับ